การสำรองข้อมูล (Data Backup)
จุดประสงค์การสำรองข้อมูล
ก็เพื่อก็อปปีฐานข้อมูลเก็บไว้ใช้งาน เผื่อในกรณีต่อไปนี้
- ฐานข้อมูลเสียหาย ใช้การไม่ได้: กรณีนี้มีสาเหตุใหญ่ๆ มาจาก ไฟฟ้าดับหรือปิดเครื่องขณะโปรแกรมยังกำลังทำงานอยู่, ฮาร์ดดิสก์เกิดการเสียหาย
- ต้องการย้ายเครื่อง ไปยังเครื่องใหม่: อาจเพราะเครื่องปัจจุบันเก่าแล้ว ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น
สิ่งที่ต้องทำก่อน
ก็คือการดาวน์โหลดโปรแกรมสำหรับสำรองข้อมูลตามลิงค์ข้างล่างนี้
- ดาวน์โหลดโปรแกรม AndamanSoft ClinicLite Data Backup
- โปรแกรมนี้ไม่ต้องติดตั้ง แต่ให้แตกไฟล์ .Zip ซึ่งจะได้ไฟล์โปรแกรม CLBck.exe
- ให้ก็อปปีไฟล์ CLBck.exe ลงในแฟ้มเดียวกับโปรแกรม ClinicLite ได้เลย (ปกติจะอยู่ที่ [C:\Program Files (x86)\AndamanSoft\ClinicLite] หรือไม่ก็ [C:\AndamanSoft\ClinicLite] แต่หากมีการติดตั้ง ClinicLite ลงที่แฟ้มอื่น ก็ให้ก็อปปีลงที่แฟ้มนั้น)
ย้ำเตือนว่าโปรแกรมนี้จะต้องก็อปปีลงในแฟ้มเดียวกับโปรแกรม ClinicLite เท่านั้น มิฉะนั้นจะไม่สามารถทำงานได้
การใช้งานโปรแกรม AndamanSoft ClinicLite Data Backup
1. เรียกใช้โปรแกรมโดยการดับเบิลคลิกที่โปรแกรม ClinicLite Data Backup
(หากทำ Shortcut ไว้ที่หน้าจอ Desktop ของ Windows ก็จะเรียกใช้งานได้สะดวกขึ้น)
2. เลือกแถบ [Backup] หรือ [สำรองข้อมูล]
หมายเหตุ:
- โปรแกรม ClinicLite Data Backup นี้จะต้องอยู่ในแฟ้มเดียวกับโปรแกรม ClinicLite
- ก่อนเรียกใช้งานโปรแกรมนี้ ควรจะปิดโปรแกรม ClinicLite ก่อน
- หากต้องการเปลี่ยนภาษาสามารถกดปุ่มเปลี่ยนภาษาได้
3. กดปุ่ม [Choose…] หรือ [เลือก…] เพื่อเลือกแฟ้มปลายทาง ที่จะก็อปปีฐานข้อมูลไป เช่น
หากปลายทางเป็น [E:\MyBackup] ให้เลือกแฟ้มนี้
หมายเหตุ:
- โปรดตรวจสอบพื้นที่ว่างของแฟ้มปลายทาง ว่ามีเนื้อที่ว่างพอหรือไม่ (โปรแกรมจะตรวจสอบให้ ก่อนจะทำการเริ่มสำรองข้อมูลอีกครั้ง)
- แฟ้มปลายทาง ควรเป็นตัวเก็บข้อมูลที่ไม่อยู่ในเครื่องใช้งาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่แฟ้มข้อมูลใช้งานจริง และแฟ้มข้อมูลสำรองจะเสียหายพร้อมกันได้
4. เมื่อพร้อมแล้ว ให้กดปุ่ม [Backup] หรือปุ่ม [สำรองข้อมูล] ที่เป็นรูปฮาร์ดดิสก์ เพื่อเริ่มสำรองข้อมูล โปรแกรมจะทำการสำรองข้อมูล และแจ้งผลให้ทราบ ที่ช่องด้านล่าง (ส่วนที่เป็นพื้นที่สีขาวด้านล่าง)
หมายเหตุ:
- หากท่านเลือกแฟ้มปลายทางเป็น [E:\MyBackup] โปรแกรมจะสร้างแฟ้มใหม่ให้ภายใต้แฟ้มที่เลือก โดยมีชื่อแฟ้มอัตโนมัติเป็น CL_<ปีเดือนวัน>_<ชั่วโมง-นาที-วินาที> เช่น
[E:\MyBackup\CL_2022-09-05_18-14-56]
5. ให้ท่านตรวจสอบผลการสำรองข้อมูล ว่าสำเร็จหรือไม่ และจัดเก็บข้อมูลสำรองไว้ในที่ปลอดภัย
หมายเหตุ: ควรทำการสำรองข้อมูลทุกวัน เพื่อความไม่ประมาท
6. ท่านสามารถอ่านวิธีการนำข้อมูลสำรองกลับมาใช้ได้ที่ลิงค์นี้